เมื่อทั้งความมันและน้ำเหงื่อไหลซึมออกมาจากรูเปิดบนผิวพรรณสักระยะหนึ่ง และมีสภาพแวดล้อมที่อับชื้นนานพอเหมาะ บรรดาเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติบนผิวพรรณ ก็จะพากันเจริญเติบโตแพร่พันธุ์ออกมาจำนวนมาก พร้อมทั้งส่งกลิ่นเหม็นอับออกมาเป็นกลิ่นตัวแรงๆ เป็นสาเหตุแรกของกลิ่นตัว
สาเหตุอันดับต่อไปของการมีกลิ่นตัวฉุนๆ ที่สำคัญคือ ประเภทอาหารที่รับประทาน เครื่องเทศ กระเทียม ทุเรียน วิตามินบีรวม ซึ่งเป็นอาหารที่มีกลิ่นแรง อาจระเหยออกมาจากลมหายใจ ขับถ่ายออกมาทางต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน ต่อมกลิ่น หรือเป็นบ่อเกิดในการสร้างสารประกอบมีกลิ่นได้แล้วจึงปลดปล่อยออกมาทางช่องระบายของร่างกายได้อีกทอดหนึ่ง
สาเหตุของกลิ่นตัวอันดับสาม น่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า ที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดที่เพียงพอ หรือเสื้อผ้าที่มีขนาดกว้างใหญ่มาก มักอับชื้นและเกิดกลิ่น ควรหมั่นทำความสะอาด สิ่งแวดล้อมและบรรยากาศรอบกาย ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีกลิ่นต่างๆ ติดตัวมา ทางที่ดีต้องเลือกขั้นตอนการขจัดกลิ่นตัวที่เหมาะสมกับตนเอง ต่อไปนี้
- ทำความสะอาดร่างกายอย่างถูกต้องตามหลักสุขภาพดี เริ่มด้วยการอาบน้ำ ฟอกสบู่ทุกครั้งที่มีเหงื่อออกมาก และผิวมันต้องหมั่นสระผม รักแร้เป็นจุดอับที่มักส่งกลิ่นรุนแรงเสมอ
- งดอาหารที่มีกลิ่นแรง ตั้งแต่เครื่องเทศชนิดต่างๆ กระเทียม กะปิ ทุเรียน ปลาเค็ม สะตอ ควรรับประทานอาหารที่มีกลิ่นบางเบา หรือไร้กลิ่น
- ทำความสะอาดผม ร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้า ภายหลังเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นทำครัว เป็นต้น
- ทำความสะอาดเสื้อผ้า รองเท้าเสมอ ซักด้วยผงซักฟอก ตากแดด หรืออบแห้ง
- กลบกลิ่นเหม็น โดยใส่น้ำหอมตามร่างกาย ควรเลือกน้ำหอมที่ถูกใจและติดทนนาน หรือพกน้ำหอมติดตัวไปด้วย การใส่น้ำหอมบ่อยๆ จะเป็นการช่วยขจัดกลิ่นตัวได้เป็นอย่างดี ส่วนโรลออนทารักแร้ขจัดกลิ่น ก็เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งเพราะใช้ง่าย
- อยู่ในสถานที่อากาศไม่ร้อนอบอ้าว อากาศถ่ายเทดี
ขอให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง ตามความเหมาะสมกับฐานะการเงิน การงาน และความสะดวกสบายอย่างที่ต้องการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
No comments:
Post a Comment